พักร้อน @ ตรัง

ตอนนี้อยู่ตรัง มาพักร้อนได้สามสี่วันแล้ว ครั้งนี้ที่มาจริงๆก็ไม่ได้ตั้งใจจะไปเที่ยวไหนเป็นพิเศษหรอก  แต่เนื่องด้วยเวลากำลังดีกับมีความอ่อนแอทางความคิด เลยขอมาพักผ่อนดีกว่า หลบออกจากอะไรเดิมๆบ้าง เผื่อจะดีขึ้น *~

ทริปนี้กว่าจะตัดสินใจว่าจะมาก็ 28-29 เมษาแล้ว เลยได้ตั๋วขามาวันที่ 2 พ.ค. ค่าตั๋วเลยแพงไปนิดนึง ตั้งแต่มาถึงนี่ฝนตกเกือบทุกวันเลย แต่ฝนตกแถวนี้ก็ไม่มีลมพัดแรงๆ มีแต่สายน้ำที่ค่อยๆหยดลงมาเรื่อยๆ ตกแบบไม่รู้จะหยุดเมื่อไหร่เหมือนมีม่านน้ำบางๆระหว่างเรากับสิ่งรอบข้าง ดึงดูดให้ยืนมอง คิดอะไรเรื่อยเปื่อยไปได้ตั้งนานสองนาน *~

แหะๆ คิดอะไรไม่ออกแล้วก็ต้องแปะรูปตามเสต็ป 😛

บังเอิญว่าตอนขาไปได้นั่งตรงทางออกฉุกเฉิน นั่งๆไปอยากแอบลองเปิดดูเหมือนกันนะเนี่ย :P~

img_2186

อันนี้เป็นโชว์แมวน้ำ … ให้มันอดทนต่อปลาที่วางอยู่ข้างหน้า … น่าสงสารเนอะ

img_2202

ทะเลลลล….

img_2224

img_2244

img_2257

ทางเข้าสระมรกตที่กระบี่ เจอเห็ดหน้าตาน่ารักดี ^^

img_2264

img_2267

img_2269

สระมรกต

img_2284

เค้าบอกว่าที่มันใสขนาดนี้เพราะมันไหลผ่านหินปูน ทำให้ตะกอนมันตกอย่างรวดเร็ว

img_2296

img_2308

img_2311

img_2340

img_2343

img_2357

img_2360

และอันที่ลืมไม่ได้คือ ขนมจีบ

dsc00416

กะหมูย่างงงง

dsc00418

และแล้วว ก็อ้วนกลับมามากมาย เอิ้กๆ …

 

 

 

[ad#inline-1]

น้ำตกเจ็ดคด โป่งก้อนเส้า

นานๆทีจะได้เขียน Blog นอกสถานที่ซักที

ตอนนี้นั่งอยู่ในเต็นท์ที่อ่างเก็บน้ำใกล้ๆน้ำตกเจ็ดคด…อะไรซักอย่างที่สระบุรี (อย่างร้อนเลย) กำลังรอเพื่อนๆน้าที่มาด้วยกันทำกับข้าวอยู่ (คิดจะไปช่วยบ้างมั๊ยเนี่ย) แต่ด้วยความเก็บของเมื่อเช้าอย่างรีบร้อนเลยไม่ได้เอาบลูทูธติดมาด้วย ทำให้ต้องรอกลับไปอัพจริงๆที่บ้าน แต่อารมณ์กำลังได้ เลยขอนั่งเขียนไปพลางๆละกัน

ช่วงประมาณสองสามอาทิตย์ที่ผ่านมานี่ได้ทำตามความตั้งใจอยู่อย่างคือ การวิ่ง  !!  ใช่  วิ่ง  นี่แหล่ะ แบบว่าตั้งหน้าตั้งตาว่าจะวิ่งๆตั้งหลายครั้งแล้ว แต่จนแล้วจนรอดก็วิ่งได้อย่างเก่งไม่เกินสี่ห้าครั้งก็หยุดทุกทีแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา ตรงที่มันเกินสี่ครั้งมานั่นแหล่ะ แล้วมีอยู่วันนึงกำลังวิ่งๆอยู่แล้วก็เกิดความรู้สึกที่ว่า จริงๆแล้วการวิ่งรอบหมู่บ้านมันก็ทำให้เราผ่านอะไรหลายๆอย่าง  เหมือนกัน

ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นต้นโมกหน้าบ้านที่หอมแบบเย็นๆ…
กับต้นปีบที่ไม่ค่อยจะเห็นใครปลูกกัน
ได้กลิ่นดินที่ฟุ้งขึ้นมาจากบ้านที่กำลังรดน้ำต้นไม้
ได้กลิ่นกับข้าวจากบ้านที่ใครซักคนคงกำลังตั้งใจทำ
ได้กลิ่นชมพู่ริมรั้วที่หล่นจากต้นไปแตกอยู่บนพื้น
ได้วิ่งผ่านดอกลั่นทมที่หอมจนคนต้องเปลี่ยนชื่อเพื่อจะปลูกไว้ในบ้านอย่างสบายใจ

สุดท้ายเราก็วิ่งผ่านมันไปรอบแล้วรอบเล่า ..

ก็คงคล้ายๆกับชีวิตคนเราที่ต้องผ่านอะไรมากมาย
เศร้าโศก เสียใจ
ดีใจ
รัก
โกรธ เกลียด
สบายใจ
หรือแม้กระทั่ง เฉยๆ

และก็เช่นกัน สุดท้ายเราก็ต้องผ่านมันไปเช่นกัน

และก็เช่นกัน น้าๆเค้ากับข้าวเสร็จแล้ว ไปกินก่อนนะ

 

ก่อนจะไปขอปิดท้ายด้วยรูปอีกซักเล็กน้อย ติชมได้ตามชอบใจน่อ และภาพชุดนี้ขอตั้งให้เป็น ชุดภาพกระต่ายยอดเยี่ยมประจำปีของเราเลยละกัน ^^

ปล. ปีนึงมันจะได้ถ่ายกระต่ายซักกี่ครั้งกันเชียว

ปปช. สังเกตุดูจะเห็นว่าไม่มีรูปน้ำตก เพราะว่าเราไม่ได้เดินไปนั่นเอง ก็มันไม่มีน้ำอ่ะ อิอิ 

บริเวณที่กางเตนท์

img_1892

img_1902

นี่แหล่ะ พระเอกของเรา (หรือนางเอกหว่า – -“) 

img_1922

img_1930

เข้าไปดูรูปต่อข้างในนะ

โคขุนโพนยางคำ

วันเสาร์ที่ผ่านมา (7 ก.พ.) ได้มีมีตติ้งเล็กๆของเด็กห้อง 4 ลาดกระบัง ปรากฏว่าก็เล็กจริงๆ คนนู้นติดนู่นคนนี้ติดนี่ จนเหลือผู้เข้ารอบประมาณ 7 คน แต่ก็โอเคเพราะนัดกันครั้งแรกๆเลยตั้งแต่รับปริญญามา ไว้ครั้งต่อๆไปก็น่าจะมากันเยอะขึ้น รอบนี้มีผู้ร่วมก๊วนคือ ป๋ามี่ เสียติ๊ก เสี่ยปอนด์ ไอ้ฟอร์ด แล้วก็ นัทที กับ เทพต้น เลยกลายเป็นสายเทคโนโลยีไปเลย เพราะมีแต่ภาคคอมกับไอที – -” ไปกินกันที่ร้านโคขุนโพนยางคำ ตรงซอยนวลจันทร์ 21 ที่เสี่ยติ๊กการันตีมาเป็นอย่างดี นัดกันค่ำๆหน่อยประมาณทุ่มนึง ไปถึงนี่เกือบไม่มีที่จอดรถดีนะที่ได้คาถาที่จอดรถภาษาเกาหลีของฝนไว้ใช้ .. เลยมีคนออกให้จอดพอดี (เอิ้กๆ ไม่ค่อยเชื่อแต่ก็ใช้ได้หลายครั้งเลย)

สรุปว่าวันนั้นแปลงร่างเป็นสัตว์กินเนื้อเต็มพิกัดบวกกับความหิวโหยเลยรู้สึกว่ากินกันเร็วมาก ไอส่วนต่างๆของเนื้อเราก็ไม่ค่อยรุ้จักหรอก ได้เสี่ยติ๊กกับเสี่ยปอนด์สั่งให้กินกัน แล้วฟอร์ดก็ย่างกันไป แหะๆ สรุปว่ากรูกินอย่างสบายไป … ที่อร่อยที่สุดคงเป็นสันในกระทะร้อน เป็นเนื้อวางมาบน plate ร้อนๆ พลิกหนึ่งครั้งแล้วกินได้เลย อร่อยจริงๆสมกับราคา plate ละ 200 ฿  :P~

อ้อ สำหรับคนที่ไม่รู้จักร้านนี้ ร้านนี้เป็นร้านขายเนื้อแบบมีกลิ่นอายของหมูกระทะหน่อยๆ แต่ทั้งหมดจะเป็นเนื้อให้เราเลือก โดยเลือกเนื้อส่วนต่างๆมาย่างบนเพลตที่ตั้งอยู่บนเตาถ่านอันเล็กๆ พวกเรียนจบชีวะมาน่าจะสั่งง่ายหน่อย เพราะมันคงต้องเรียนพวก antomy ของวัวมาบ้าง ส่วนเราก็กินตามที่เพื่อนสั่งไปละกัน อิอิ  ที่สั่งมากินก็เช่น เสือร้องไห้ (มันคือตรงไหนก็ไม่รู้) ลิ้น แล้วอะไรอีกอ่ะ จำไม่ได้แล้ว.. – -”

 dsc00294

dsc00285

dsc00293

dsc00283

dsc00281

dsc00284

ภูทับเบิก

หลังจากที่ดองจนเริ่มเค็มก็ได้ฤกษ์เอามาให้ชิมกันได้แล้ว.. เอ้ย !! ไม่ใช่ไข่เค็ม

ตอนกลางๆเดือนธันวา 50 ที่ผ่านมาได้ไปเที่ยวเล่นแถวๆภูทับเบิกมาเลยเอารูปมาฝากกัน ^^

img_1429img_1430img_1435

P a a i

 
🙂 เพิ่งจะไปเที่ยว " ปาย" มาอ่ะ ทริปนี้รู้สึกดีมากมาย….
 
เริ่มจากชิ่งออกจากที่ทำงานตอนสี่โมงครึ่ง 😛 กลับบ้านเอาของแล้วออกเดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยรถทัวร์รอบทุ่มนึง เกือบๆได้เวลาเพื่อนแกนก็ทำตื่นเต้นเล็กน้อยด้วยการ
 
ที่อีกสิบห้านาทีรถออกแต่แกนยังอยู่สถานีสยาม – -" คืนแรกก็นอนบนรถทัวร์ไปถึงเชียงใหม่ประมาณ ตีสี่ครึ่ง แวะล้างหน้าล้างตากินข้าวกันเล็กน้อย + เคลียร์งานที่ฝากพี่ที่ทำงานไว้
 
(ทำกันตอนตีห้าครึ่งนี่แหล่ะ ><~~)  เสร็จแล้วประมาณหกโมงครึ่งก็ขึ้นรถตู้ไปปาย ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.ครึ่งก็เดินทางถึงปาย จำนวนโค้งที่ผ่านนี่ไม่ต้องนับกันเลยทีเดียว
 
 
วันแรกเริ่มด้วย เช่ามอเตอร์ไซค์ 4 คัน สำหรับ 7 คน แวะเข้าที่พักกันเล็กน้อย .. ก่อนออกมาไหว้พระที่วัดพระธาตุแม่เย็น .. จิบกาแฟที่ All about Coffee .. และไปนั่งเล่นที่บ่อน้ำพุร้อน
 
มาถึงวันแรกก็มีเรื่องตื่นเต้นอีกเช่นกันเมื่อวิวมันสวยจัดจนเพื่อนกรูโดดลงไปในทุ่งนาซะงั้น – -" และก็วิวสวยอีกเช่นกันเล่นเอาพี่ก้องลงไปนั่งเล่นกลางถนน แต่ทุกอยางก็ผ่านไปได้ด้วยดี.. ^^
 
นั่งเล่นบ่อน้ำร้อนซักพักใหญ่ๆก็กลับเข้าที่พักกัน อาบน้ำซักเล็กน้อยตอนบ่ายๆ ก่อนที่อากาศจะหนาวไปมากกว่านี้ เสร็จเรียบร้อย เย็นๆก็ออกไปลุยกันต่อ ..  เริ่มด้วยอาหารเย็นที่ร้านบ้านปาย
 
ทีตอนแรกกะว่ากินกันนิดหน่อยรองท้อง แล้วเดี๋ยวไปหาอะไรเดินกินกันต่อ แต่พอเอาเข้าจริงตอนสั่งอาหารที่ ไม่ได้นิดหน่อยเลย กินกันซะอิ่มเลย แทบจะกินอย่างอื่นไม่ไหว ..
 
กินเสร็จก็ออกไปเดินเล่น ที่ดูไปดูมาปายก็คล้ายข้าวสารมากขึ้นเรื่อยๆ  … เดินเล่นกันพักใหญ่ๆก็ซื้ออะไรมานั่งกินกันที่ที่พัก ก่อนนอนก็มีปล่อยโคมกันเล็กน้อย
 
แต่ก่อนปล่อยก็กินเบียร์ไปหน่อยนึง ทำเอาถ่ายโคมแทบไม่ทันเลย – -"  อ้อ คืนแรกพักที่ บ้านเนินเขาวิวปาย
 
 
วันที่สองเริ่มจากกตื่นมาแปดโมงได้มั้ง ยังไม่มีใครลุกเลย ก็เลยเปรี้ยวขี่มอไซค์ออกมาถ่ายรูปใกล้ๆ แต่ด้วยความหนาวจัดไปไหนได้ไม่ไกล เลยไม่ค่อยได้รูปเช้านี้ …
 
พอสายหน่อยก็เข้ามาในเมืองหาอะไรกินวันนี้เริ่มด้วยร้าน เค้กโกโอ ที่เหมือนจะได้ยินมาว่าอะหร่อยมาก แต่ดูเหมือนทุกคนจะลงความเห็นว่าไม่เวิร์คเหอะๆ
 
โดยเฉพาะวิปที่มาถึงไม่สนใจอะไรเลย พี่แกสั่งก่อนเลย มัฟฟินสามชิ้น – -" ถึงแม้ว่าคนละรสแต่ดูแล้วไม่ต่างกัน ของเรามื้อนี้เป็น มอคค่าร้อน + ขนมปังชีส + ไวค์ช็อคชีสเค้ก
 
กินเรียบร้อยก็ตามด้วยหาที่พักใหม่สำหรับคืนที่สอง สรุปไปลงตัวที่ ปาย ริเวอร์ไซต์ เป็นบ้านริมน้ำอีกบรรยากาศนึง  วันนี้ไม่ได้ทำอะไรมาก หลังจากย้ายของกันมาเรียบร้อย
 
นั่งเล่น อาบน้ำ บ่ายๆก็ออกไปกินกาแฟที่ร้าน Coffee in Love ซึ่งต้องออกนอกเมืองไปหน่อย แต่ด้วยยความเปรี้ยวเพราะว่าเมื่อวานไม่หนาวเท่าไหร่ เลยใส่ไปแต่เสื้อยืด
 
เอาเข้าจริงใส่เสื้อยืมขับมอไซค์หนาวสุดจะบรรยาย ><~~ ร้านนี้เป็นอีกร้านนึงที่ไม่ผิดหวัง กาแฟรสชาติใช้ได้แต่ที่สำคัญคือบรรยากาศดีมากๆ มองเห็นทุ่งนาสุดสายตา
 
ฉากหลังเป็นภูเขา แสงอาทิตย์ค่อยๆลับขอบฟ้า … รู้สึกดีมากมาย กลับมาจากร้านกาปฟ ก็เดินเล่นต่อในเมืองอีกเล็กน้อง หาของฝากกันเล็กน้อย
 
แล้วคืนนี้ปิดท้ายด้วยการไปดื่มกันเล็กน้อยที่ร้าน Phu-pai ก่อนกลับที่พัก แต่ที่พักคืนที่สองดันใช้เสียงไม่ได้ ก็เลยนั่งกระซิบกันอยู่ในห้องซักพัก – -" ก่อนแยกย้ายกันไปนอน
 
 
 
วันที่สามตื่นเช้ามาเจ็ดโมงครึ่งได้มั้ง ก็เรียกๆดูแล้วไม่มีใครตื่น (จริงๆก็เรียกพี่ก้องคนเดียวอ่ะ) เลยออกไปเดินเลานถ่ายรูปเล็กน้อย 🙂 … ก่อนจะกลับมาอาบนำ เก็บของ
 
แวะร้าน All about Coffee อีกซักรอบก่อนขึ้นรถกลับเชียงใหม่ แล้วก็ขึ้นรถทัวร์กลับกรุ่งเทพฯ ตามลำดับ ถึงกรุงเทพฯ วันที่ 4 ประมาณ  4.30 น. เป็นอันจบทริปสั้นๆ ที่มีรู้สึกดีมากมาย
 
Trip’s Detail
 
ค่าเดินทาง : รถทัวร์ไป – กลับ ~ 1300 ฿  / รถตู้ชม. – ปาย ~ 300 / ค่าเช่ามอไซค์ ~ 140 ฿ / Day
 
ค่าที่พัก : ~ 600 / คืน
 
รวมโดยประมาณ  : 3000++  ฿ / คน
 
 
 
Scroll to top