โดนขัง …

 
เอ่อ … ไม่ต้องตกใจกับหัวข้อนะคับ เรื่องมันมีอยู่ว่า วันนี้พาพี่ไม่สอบแอร์โฮสเตส ของสายการบิน แอร์มิเรต อาหรับ ที่โรงแรม Holiday Inn แถวๆสีลม ตื่นไปส่งพี่ทำผมตอนตีสี่ครึ่ง แล้วไปถึงโรงแรมเกือบๆ แปดโมง ก็รอพี่เข้าไปสอบ บังเอิญว่าเอาโน๊ตบุคไปด้วย รอพี่อยู่ที่ Lobby แล้วเปิด wireless เจอจะเล่นซะหน่อย ก็ต้องซื้อ Card Net พอไปถามราคา ฮ่าๆ สองชั่วโมงแปดร้อยกว่าบาท .. เอิ้กๆ ไม่ไหวๆสู้ไม่ไหว ไปนั่งเล่นที่ Starbuck ดีกว่า …
 
รอพี่อยู่จนบ่ายสอง… ก็กลับบมาบ้าน แล้วก็หลับกันทั้งบ้านครับ หลับๆๆๆ … จนสองทุ่ม ตื่นขึ้นมา ไม่เห็นใคร ก็คิดว่า เอ.. สงสัยคงหลับอยู่ข้างบน และด้วยความหิวก็คิดว่าออกไปซื้อข้าวมากิน แล้ว็ไว้ให้แม่กะพี่ด้วยดีกว่า .. ขึ้นไปเปลี่ยนชุดเสร็จ ลงมาหยิบกุญแจรถ.. ก็พบว่า เฮ้ย !! กุญแจบ้านไปไหนฟะ .. หันไปดูหน้าบ้าน เฮ้ย !!! รถพี่ไม่อยู่ กรำ นี่ตูถูกขังนี่หว่า โทรไปหาแม่ทราบว่า ไปบ้านน้ากัน .. ฮือๆๆๆ โดนขังอยู่บ้าน เอิ้กๆ หิวก็หิว ฮือๆๆๆ
 
มาต่อกันด้วยเรื่องราวในชีวิตช่วงที่ผ่านมา หลังจากไม่ได้อัพซะนานเลย
 
ช่วงนี้ก็พึ่งกลับมาจากรับน้องห้องที่ลาดกระบัง ปีนี้ก็สนุกดี แต่เหนื่อยหน่อยเนื่องมาจากมีกิจกรรมพิเศษนิดหน่อย 😛 แต่ดูไปดูมา นี่มันรับน้องปีสุดท้ายนี่หว่า … เฮ้อ แก่ว่ะ
 
นี่ก็พึ่งผ่าน Midterm มาไม่นาน แต่ปีนี้สอบตัวเดียวเอง Image Processing ทำไม่ค่อยได้เลย ขนาด Open Book นะเนี่ย
 
ช่วงนี้มีงานเรื่อยๆเลย เลยไม่มีโอกาศนั่งกินเหล้ากะเพื่อน ทั้งๆที่มีเหล้าแต่กินไม่ได้ ฮ่าๆๆ
 
ปล. Happy Birthday แม่ค้าบ … ก็ Happy Birthday เพื่อนที่เกิดเดือนนี้ทุกคนนะ รู้สึกว่าจะเกิดกันเยอะเลยทีเดียว
 
ปล2. Space เปลี่ยนใหม่ ทำเอารูปแบบเสียไปเลย

เซ็งคับ…

เคยเป็นกันบ้างป่าวอ่ะ .. อาการเซ็ง
 
 
ช่วงที่เหมือนว่าชีวิตกำลังไปได้ดี อารมณ์ดี งานก็ไม่เยอะจนเกินไป (จิงไม่ค่อยมีงานไรเลย) แต่อยู่ๆมันก็ เซง คับ
 
 
 
เซงเป็ดเซงไก่ เซ็งไปเรื่อย เซงไปซะหมด บางครั้งก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นหุ่นยนต์ อ๊ะ ซ้ำกะไอฟอร์ด ไม่เอาดีกว่า
 
เปลี่ยนๆ บางครั้งก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นมนุษย์ต่างดาว ที่อยู่ท่ามกลางผู้คนมากมาย หันไปทางไหนก็มีแต่คน ไม่มีใคร
 
เป็นมนุษย์ต่างดาวเหมือนเราเลย อยากได้มนุษย์ต่างดาวบนโลกนี้มาอยู่เป็นเพื่อนกันซักคน ใครที่รู้ตัวก็แสดงตัวหน่อย จะ
 
ได้คุยกันแบบต่างด๊าวต่างดาว (ไม่ใช่ต่างด้าวนะ)  เฮ้อ…
 
 
 
บางทีก็มานั่งหาสาเหตุว่าเรากำลังเซงอะไร แต่หลายๆครั้งก็ไม่รู้ว่ามันเซ็งอะไร หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ เลยทำให้เซ็งเข้าไป
 
อีก ฝนตก็เซง แดดออกก็เซง มันเซงได้ทุกสภาพอากาศดีจิงๆ ตอนที่กำลังเขียนอยู่นี้ มนุษย์คนอื่นๆก็คงสนุกสนานกับ
 
การวิ่งเล่น ไปเที่ยวนู่นทำนี่ แต่มนุษย์ต่างดาวอย่างตูกลับไม่ได้ทำไรเลย นั่งเซงอยู่หน้าคอม… ไปเรื่อยๆ .. รอให้ความ
 
เซ็งออกจากร่าง..ง..ง
 
 
 
แต่ไหนๆก็เซ็งแล้ว ต้องใช้มันให้เป็นประโยชน์ เพราะบางครั้งอยากเซ็งแต่อารมณ์มันไม่ให้ ก็เซงไม่ได้ เพราะฉะนั้นถ้า
 
เซงแล้วก็ต้องเข้าให้ถึงแก่นแท้ของความเซ็ง.. ภูมิใจที่เรามีโอกาศได้เซ็ง.  เซงมันให้ถึงที่สุด และเอาความเซ็งมาเป็น
 
แรงผลักดันให้เกิดปฏิมากรรมชั้นยอด ซึ่งในอารมณ์ปกติไม่สามารถสร้างได้..
 
สุดท้ายแล้วก็ขอให้ทุกคนที่เข้ามา เซ็งกันทั่วหน้า เซงไม่บรรยัดบรรยัง (เขียนงี้ป่ะ) เซงติดๆกัน เซงก่อนอาหารวันละสาม
 
มื้อ เซงเหมือนตู  เอิ้กๆ … (ขำๆนะ ล้อเล่นนนนนน ต่อไปจะมีใครเข้ามามั้ยวะเนี่ย…)
 
 
 
ปล.เซ็งว่ะ

Project Room

ฮ่าๆ ไม่ได้เขียนซะนานเลย อันเนื่องมาจากไม่ค่อยมีอะไรแปลกใหม่ บวกกับไม่ค่อยมีอารมณ์ด้วย …

 

ช่วงนี้ย้ายเข้ามาห้องโปรเจคอย่างเต็มตัวแล้ว นั่นก็คือห้อง Ecc 803  ซึ่งเพิ่งย้ายขึ้นมาจาก ESL ทำให้ขาดแคลนทรัพยากรต่างๆอย่างมากเรย ตั้งแต่เข้ามาปุ๊บ  ก็จะเจอระบบเน็ตเวิร์คของห้องที่เร็วยังกะจรวด คือ Hub 10 BaseT 12 Ports ทำงานที่ 10 MB/s ตั้งแต่ปี 40  แต่ตอนนี้ก็ได้ไปคุยกะอ.ขอเปลี่ยนมาเป็น Switch 100MB/s 24 Ports เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังเหลืออีกหลายเรื่องเลย  ทั้งเก้าอีกที่ยังไม่พอ แอร์ก็… ไม่ร้อนสุดๆก็หนาวยังกะขั้วโลก ฮ่าๆ แล้วตอนนี้ก็คาดว่าจะได้ locker มาในไม่ช้า  ก็น่าอยู่ขึ้นอีกหน่อย เหลือแค่การจัดระเบียบที่นั่งอีกนืดก็พอแระ อิอิ 

 

ว่าแต่มัวแต่ทำนู่นทำนี่อยู่ โปรเจคยังไม่ไปถึงไหนเรย รายงานความคืบหน้าก็โครตโหดส่งสองอาทิตย์ครั้ง  อ่าน Document ก็มหาศาลเหลือเกิน แต่ทำให้เราได้รู้ว่า Oracle นี่มันดีอยู่ แต่กินเครื่องชิบเป๋งเลย เจ้า  P4 2.4G กะแรม 512MB ของเราอืดไปถนัดเรย ดีนะที่ได้รับการอนุมัติ  จากท่านแม่ให้เพิ่มแรมอีก 1GB ตอนนี้ก็โอเคเลย ค่อยเหมือนคอมขึ้นมาหน่อย … 

 

… มาถึงตอนนี้จะจบอยู่แล้ว โปรเจคก็เริ่มแล้ว แต่ไหงไปๆมาๆ ยังไม่รู้เลยว่าเราจะไปสายไหนดี Software ? Network ? Database ? AI ?  เฮ้อ… ดูไร้ซึ่งความแน่นอน แต่ก็ดูไปเรื่อยๆ (อีกเช่นเคย) แต่เท่าที่ฟังๆอ.โปรเจคมา ถ้าเราทำ DB ให้เก่งๆ โดยเฉพาะเจ้า Oracle  นี่คงเงินดีไม่น้อยเลยเนอะ เหอะๆ แต่สุดท้ายแล้วก็ยังไม่อยากเลือกอยู่ดี …

 

 

ปล. ทดลองใส่ Emiticon เผื่อว่ามันจะช่วยทำให้อ่านง่ายขึ้น (ป่าวหว่า)

ปล2. เจริญมีแฟนแล้วว่ะ …. ท่าทางจะน่ารักด้วย เอิ้กๆ อิจฉา ๆ

 

Books

หนังสือ…
 
เคยอ่านหนังสือกันบ้างมั้ย…
 
หนังสือบางเล่มอ่านจบแล้วก็มานั่งร้องไห้กัน …
 
หนังสือบางเล่มหน้าปกสวย แต่ก็อ่านไม่รู้เรื่อง …
 
 
 
หนังสือบางเล่มมีหลายๆคนบอกว่าดี แต่พอไปอ่านจิงๆแล้วก็ไม่เท่าไหร่
 
… บางเล่ม อ่านไปตอนแรกเหมือนจะดี แต่หลังๆก็ไม่รู้เรื่อง
 
… บางเล่ม บางคนก็กลับมาอ่านเป็นรอบที่สอง รอบที่สาม
 
… บางเล่ม อ่านๆไปก็รู้สึกว่าถูกหลอกให้ซื้อ
 
 
 
บางครั้ง … ก็ไม่อยากอ่านถึงหน้าสุดท้าย
 
บางครั้ง … อ่านไม่ทันจบก็เขว้งทิ้ง
 
บางครั้ง … อยากกลับไปอ่านต่อ แต่ก็ทำไม่ได้
 
 
 
… บางเล่ม ทำให้คนบางคนเปลี่ยนไป
 
… บางเล่ม เหมาะจะให้คนอื่นมากกว่าเก็บไว้อ่านเอง
 
… บางเล่ม อ่านแล้ววางไม่ลงจริงๆ
 
 
 
แต่ยังไงซะ คงไม่มีเล่มไหนที่ดูแค่ปกแล้วจะรู้ถึงรายละเอียดข้างในอย่างลึกซึ้ง
 
… ยังไงซะ ไม่มีทางที่จะอ่านหนังสือหลายๆเล่มให้รู้เรื่องไปพร้อมๆกัน
 
… ยังไงซะ อย่าให้หนังสือเล่มไหนมาเปลี่ยนความเป็นตัวของเรา
 
 
 
 
… และสุดท้าย หนังสือมีอยู่เยอะแยะ ถ้าหาไม่เจอก็ลองพักกินกาแฟซักแก้ว เผื่อจะช่วยให้หาเจอก็เป็นได้ …
 

Trang

กลับมาอีกแล้ววว พร้อมกับสีผิวที่เข้มขึ้นอีกเล็กน้อย (หึหึ) …
 
ก่อนจะเล่าเรื่อง ทริปที่ไปตรังมา มีเหตุการณ์เล็กๆน้อยๆที่เกิดขึ้นก่อนจะไปเที่ยว นั่นก็คือ เมื่อวันจันทร์หลังจากกลับมาจากเสม็ดกับเพื่อนๆ วันอังคารก็ได้มีนัดสัมภาษณ์โครงการโปรแกรมเมอร์อะไรซักอย่างนี่แหล่ะ (ชื่อยาวโครตๆ) วันนั้นก็ได้ตื่นเช้า เตรียมตัวไปสัมภาษณ์ครับ ออกจากบ้านเกือบๆเจ็ดโมง ออกมาได้ห้านาทีก็เหิดเหตการณ์ไม่คาดฝันขึ้น นั่นก็คือขณะที่ขับรถเข้าทางลัดจะไปออกดอนเมือง มีโค้งหักสอกอยู่ ก็เลี้ยวไปตาม(ที่คิดว่า)ปกติ อยู่ๆก็มีมอเตอร์ไซค์ พุ่งมาชนกันอย่างรวดเร็ว ตุ๊บ….ตุ๊บ….. เงียบ หลังจากอึ้งอยู่ประมาณ วิครึ่ง ก็ได้ ลงไปช่วยเค้าพยุงเค้าขึ้นมา พร้อมกับรถมอเตอร์ไซค์เค้า แล้วก็ไปเลื่อนรถเราให้หลบออกจากถนน ในระหว่างนั้นห็เหลือไปเห็น.. "กรรม ยางหน้าตูแตกซะงั้น.." แล้วก็เรียกประกันมา เคลียร์ ประกันก็บอกว่าเราผิดก็จ่ายทุกอย่างไป (โชคดีที่ทำชั้น 1 ไว้) แล้วก็เปลี่ยนยาง สุดท้ายก็เอารถไปซ่อม (ต้องไปตั้งสองถึงสามที่) และแล้วเราก็หมดกำลังใจที่จะไปสัมภาษณ์ ทั้งๆที่ยังมีเวลาเหลือพอที่จะไปทัน …
             
 
เซ็งครับ….
เซ็งกับความประมาทของตัวเอง…
เซ็งกับการที่ต้องทำให้คนอื่นบาดเจ็บ ถ้าเค้าเป็นอะไรไป เราจะทำไงเนี่ย…
เซ็งกับการที่ต้องทำให้แม่เป็นห่วง… 
เซ็งกับการไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ… 
เซ็งกับความงี่เง่าของตัวเองที่ไม่ยอมตรวจสอบอู่ที่จะซ่อมให้เรียบร้อย….
แต่ก็ขอขอบคุณเพื่อนๆที่เป็นห่วง… วันนั้นรู้สึกดีมากๆ เพราะทำให้เรารู้ว่าคนที่เราอยากให้เป็นห่วงเค้าไม่ได้สนใจเราเรย เหอะๆ แต่เพื่อนๆเรากลับเป็นห่วงเรามากกว่าเยอะ ^_^
แล้วก็ขอบคุณ + ขอโทษ คุณลุงคนนั้น ที่อยู่ๆไปชนเค้า แล้วเค้าก็ยังใจดี ไม่เรียกร้อง + ว่ากล่าวใดๆ
 
และมันก็เป็นประสบการณ์อีกครั้งนึงของชีวิต …
 
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
 
พอแล้ว สำหรับความรู้สึกแย่ๆ แน่นอนคงไม่มีใครรู้สึกแย่ไปตลอด หรือ รู้สึกดีไปตลอด มันก็ต้องปนๆกันไปตามกฎของธรรมชาติ หลังจากรถชนได้หนึ่งวัน การเดินทางก็เริ่มขึ้น…
 
วันพุธที่ 10 เวลา 16.00 น. ก็ได้ออกจากที่ทำงานเนื่องจากพี่ๆที่ Office ใจดี ให้ออกมาก่อนก็มาเจอแม่ที่ lotus เอากระเป๋ากินข้าวเล็กน้อย แล้วก็ไปหาน้าที่ กรมขนส่ง (ตรงข้ามจตุจักร) …แล้วเดินทางไปขึ้นรถทัวร์ มุ่งหน้าสู่ จ.ตรัง ใช้เวลาเอินทางประมาณ 12 ชม. ถึงที่หมายเวลาประมาณ 8 โมง
 
วันแรก ก็เริ่มต้นด้วยการไปเข้าถ้ำ "ถ้ำเล-เขากอบ" ก็เป็นถ้ำที่ใหญ่ใช้ได้เลย ตอนเข้าและออกนี่ต้องนั่งเรือตลอดเรย ช่วงตอนจะออกนี่ต้องนอนราบไปกับเรือด้วย เนื่องจาน้ำจะสูงใกล้ชนหลังคาถ้ำเรย ก็สนุกไปอีกแบบ พอเที่ยวถ้ำเสร็จก็ไปเล่นน้ำตกต่อ คือ "น้ำตกสายรุ้ง" ก็หมดไปหนึ่งวันแระ พอไปเล่นน้ำตกแล้วเห็นรูปนี่แหล่ะ เพิ่งรู้สึกว่าตูอ้วนมาไปแล้ว ไม่ไหวๆ ต้องฟิตหน่อยแล้ว เหอะๆ
                           
 
วันต่อมา ตื่นมาพร้อมกับสายหมอกอันงดงาม (มีบางคนเชื่อว่าอยู่เชียงใหม่ อิอิ) พร้อมกับเตรียมตัวไปเยี่ยมาติที่จ.นครศรีธรรมราช ทำบุญวันวิสาข (ไม่ได้เข้าวัดมานานมากๆ)เสร็จแล้วตอนบ่ายแวะไปวัดพระธาตุมาด้วย แล้วเดินไปแถวๆที่เค้าขายเครื่องเงิน เกิดอยากได้เลทเงินขึ้นมา ก็เลยเดินๆดูสวยดี แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ซื้อเนื่องจากราคาแต่ละร้านต่างกันเหลือเกินแล้วอีกอย่างเราก็ดูไม่เป็นด้วย เรยอดเรย เอิ้กๆ ไปวัดเสดก็เย็นแล้วเลยมุ่งหน้ากลับสู่ตรัง
                           
 
วันที่สาม วันนี้มีนัดไปดำน้ำดูประการัง เริ่มต้นจากไปขึ้นรถที่เค้าจัดไว้ให้ ไปส่งที่เรือ นั่งเรือต่อไปอีกประมาณ หนึ่งชม. ก็จะถึงจุดดำน้ำ ทั้งหมดมีสี่ที่ด้วยกันคือ เกาะกระดาน เข้าถ้ามรกต เกาะม้า เกาะเชือก อันที่จริงอยากเอารูปประการังสวยๆมาฝาก แต่ไม่สามารถอ่ะ เหอะๆ  สรุปว่าวันนี้ดำน้ำไปสามที่ ถึงแม้คนจะเยอะนิดหน่อย แต่การที่ได้ดำน้ำ ฟังเสียงคลื่น ดูประการัสีต่างๆ มองเห็นปลานับร้อยนับพันว่ายอยู่รอบตัว มันเป็นการเพิ่มพลังชีวิตที่ดีที่สุดวิธีนึงเรยทีเดียว แนะนำมากๆ สำหรับใครที่อยากหลบไปพักจากความวุ่นวายที่พบเจออยู่ทุกวัน แถมกับขากลับนั่งอาบแดดมาบนเรือ ดำขึ้นเป็นกอง เอิ้กๆ แต่ก็รู้สึกดีมากๆเรย
                           
 
วันสุดท้ายก็ไม่ได้ไปไหน เตรียมมาขึ้นเครื่องที่ภูเก็ตแวะกินอาหารเล็กน้อย ก่อนขึ้นเครื่องก็แวะโยนโบลประกฎว่าน้าเค้าซื้อ package ไว้ ซัดไปคนละ เจ็ดเกมส์กะน้า(เยอะสุดที่เคยโยนเรยนะเนี่ย ยังปวดแขนขาไม่หายเรย) แล้วขึ้นเครื่องกลับถึงบ้านประมาณเที่ยงคืน ทำนู่นทำนี่ ตีหนึ่งกว่าก็ได้นอน เป็นอันจบการเดินทางทริปที่สอง ก่อนเข้าสู่ช่วงพักฟื้นร่างกายเตรียมสู้กันต่อกับปีสุดท้ายของชีวิตมหาลัยที่จะมาถึง ^_^
 
ทริปนี้ได้กินอาหารแปลกๆหลายอย่าง เช่น กบทอดกระเทียม (อันนี้ไม่ค่อยแปลกแระ) เนื้อกวางผัดเผ็ด ไข่มดแดง …^^
 
สุดท้ายก็มีอะไรเล็กๆน้อยๆ ที่บังเอิญไปเจอมา (ขออภัยผู้แต่งด้วยที่ที่จำที่มาไม่ได้)
  
 "การพลัดพราก ไม่ว่าจะจากไปหรือตายจาก
รสชาตินั้นก็มิได้แตกต่างกันเลย
ในขณะที่การจากกันเป็นเรื่องแสนเศร้า
หากแต่ว่าถ้ามีความทรงจำที่ดีร่วมกันแล้ว
ในความเศร้านั้น….ก็จะยังคงมีความงดงามซ่อนอยู่
ไว้ให้เราได้คิดถึงกันอย่างเป็นสุข …"
 
Scroll to top